เรื่องราวตำนานของ สาวเอื้องผึ้ง และ หนุ่มจันผา เท่าที่ค้นคว้าหามาได้ พบเจอเพียง 2 ตำนานที่ ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก โดยตำนานหนึ่ง ได้กล่าวถึง
เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง
เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา
เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผาไปแล้วจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กัน
และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผาไปจึงรู้สึกเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไป
ด้วยความรักแท้ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันท์ผา
ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา
และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่าต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้)
หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา....
สาวเอื้องผึ้งและหนุ่มจันผานั้นเป็นคู่รักกัน
ทั้งสองสัญญากันว่าจะรักกันตลอดไป ไม่มีวันพรากจากกัน ถ้าหากแม้นคนหนึ่งตายไป
อีกคนหนึ่งก็ไม่ขออยู่ต่อ และแล้วโศกนาฏกรรมก็มาถึงโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
จันผาพาเอื้องผึ้งไปเที่ยวที่ดอย(ภูเขา)
ชายหนุ่มเหลือบไปเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งงอกอยู่ที่ต้นไม้ริมผา
มีสีเหลืองอ่อน-เข้มแซมกันไป กลิ่นของมันหอมอ่อนๆ เขาคิดว่าคนรักของตนคงจะชอบ
จึงปีนไปเก็บดอกไม้ชนิดนั้นอย่างระมัดระวัง แม้เอื้องผึ้งจะห้ามแต่จันผาก็ยังพยายามจะไปเด็ดดอกไม้มาให้ได้
และแล้วในที่สุดสิ่งที่เอื้องผึ้งกลัวก็เป็นความจริง จันผาพลาดตกลงไปในเหว
เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากแก่การเยียวยา ชายหนุ่มคอหักตายสนิท
เอื้องผึ้งร่ำไห้ประหนึ่งหัวใจแตกสลาย เธอไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อไปจึงวิ่งเอาหัวชนกับแง่หินที่หน้าผาหวังตายตามคนรักเหมือนที่เคยให้สัญญาว่าจะรักกันตลอดไป
ดอกไม้ที่จันผาพยายามจะเก็บนั้น ต่อมาคนให้ชื่อว่า ดอกเอื้องผึ้ง
ส่วนที่ๆจันผาตกลงไปตาย ก็มีต้นไม้ชนิดหนึ่งงอกขึ้นมา ผู้คนกล่าวขานเรียกว่า ต้นจันผา
เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความรักที่ยั่งยืนของคนทั้งคู่ตลอดไป……
เอื้องผึ้งบนหนึ่งผาหน้าน้ำตก
บุษราคัมแซมหยกปกแผ่นหิน
บุษราคัมแซมหยกปกแผ่นหิน
บนเงื้อมโง้งบนโค้งคุ้งรุ้งเลื่อมริน
ประดับดินประดับใจใครบางคน
เสน่หาเจ้ากระจายในสายลม
ซ่านกำซาบสาปผสมกับลมฝน
ลำแสงลอดเมฆมาเสกมนต์
ให้เจ้าเด่นเช่นมาดลจนใจรัก
ตำนานว่าคู่ชีวามาพรอดพร่ำ
ชวนชี้นำนางชมนกอย่างปกปัก
ผาพฤกษาแหวกกว้างพลางทายทัก
และแนะให้ได้รู้จักมาลางาม
นวลนางผู้หลงไหลใคร่เชยชม
จึงลงก้มเด็ดโดยแม้โหยห้าม
เอื้อมมือลงสุดล้าคราผลีผลาม
นางถลำลื่นร่วงจากห้วงหิน
กระแทกร่างลงตรงมาลานั้น
วิญญาณอันห่วงใยก่อนใจสิ้น
ก็แลกร่างกับเอื้องผึ้งชึ่งร่วงริน
น้ำตาริ้นอาลัยให้นวลนาง
หนุ่มผู้พานางมาหาความตาย
ใจสลายคว้าไขว่ได้เพียงร่าง
สาบานรักมั่นไว้ไม่จืดจาง
พลัดทอดร่างหล่นผามาตามกัน
เอื้องผึ้งบนหนึ่งสุสานเหงา
จันผาเฝ้าเคลียคลอไม่ขอหวั่น
มิได้สมครั้งยังเป็นเช่นชู้นั้น
จันผามั่น เคียง เอื้องผึ้ง ก็ พึงใจ
(ม้าก้านกล้วย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น