วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555


ตำนานดอกหอมหมื่นลี้มาลีแห่งดวงจันทร์ 


ดอกหอมหมื่นลี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลินในประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพอันงดงามด้วยทะเลสาบและไร่ดอกหอมหมื่นลี้ที่ปลูกกันเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ ชื่อ กุ้ยหลินแปลว่า ป่าหอมหมื่นลี้สันนิษฐานว่าดอกหอมหมื่นลี้นี้มีมาราว 10,000 ปีแล้ว เพราะมีการค้นพบละอองเกสรดอกหอมหมื่นลี้ในซากถ้ำยุคหินใหม่ทางใต้ของเมืองกุ้ยหลิน
ชาวจีนเรียกดอกหอมหมื่นลี้ว่า กุ้ยฮวาแปลว่า ดอกอบเชย
หนังสือ มิ่งไม้มาลีจีนของอีนเติงกั๋ว ซึ่งคุณพรพรรณ จันทโรนานนท์ แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย ได้จำแนกสีและลักษณะของดอกหอมหมื่นลี้ พร้อมทั้งชื่อเรียกในภาษาจีนไว้ดังนี้


ชนิดดอกสีขาว มีดอกเล็กและกลิ่นหอมอ่อนๆ เรียกว่า อิ๋นมู่ซีหรือ อิ๋นกุ้ยแปลว่า กุ้ยฮวาสีเงิน
ชนิดดอกสีเหลือง มีดอกใหญ่กว่าและกลิ่นหอมแรง เรียกว่า จินมู่ซีหรือ จินกุ้ยแปลว่า กุ้ยฮวาสีทอง
ชนิดดอกสีแดง มีกลิ่นหอมขจรขจายไปไกลที่สุดในบรรดากุ้ยฮวาทั้ง 3 สี เรียกว่า ตันกุ้ยแปลว่า กุ้ยฮวาสีแดง
หอมหมื่นลี้ถือเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิในตำนานของลัทธิเต๋าและพุทธศาสนานิกายมหายาน ชาวจีนและญี่ปุ่นนิยมปลูกต้นหอมหมื่นลี้ในวัด เชื่อกันว่าการคุกเข่าลงเบื้องหน้าต้นหอมหมื่นลี้เพื่อสูดดมกลิ่นหอมหวานเปรียบได้กับการน้อมคารวะสิ่งศักดิ์สิทธิ ในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งหอมหมื่นลี้หลายพันธุ์ในประเทศจีนแย้มกลีบบานสะพรั่ง ก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกหอมหมื่นลี้ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สถานที่สำคัญในนครเซี่ยงไฮ้อย่างสวนกุ้ยหลินหรือสวนพฤกษศาสตร์แห่งเซี่ยงไฮ้ล้วนเป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาชมความงามของดอกหอมหมื่นลี้และอธิษฐานขอพรจากเทวีแห่งดวงจันทร์ให้ชีวิตประสบแต่ความสุข
ตำนาน เล่าว่า เทวีแห่งดวงจันทร์เดิมเป็นเทพธิดานามว่า ฉังเอ๋อ สามีของนางเป็นนักแม่นธนูแห่งสรวงสวรรค์นาม โฮ่วอี้ ในช่วงปฐมกาลของโลก โอรส 10 องค์ของเง็กเซียนฮ่องเต้ ประมุขแห่งสรวงสวรรค์ ได้ส่องแสงสว่างมายังโลก ทว่าการที่โอรสทั้ง 10 หรือพระอาทิตย์ทั้ง 10 ดวงต่างสาดแสงแรงกล้ามายังโลกพร้อมกัน ทำให้โลกร้อนระอุและเกิดความแห้งแล้งอดอยาก โฮ่วอี้ได้ยินเสียงอธิษฐานวิงวอนของมนุษย์ที่เดือดร้อนแสนสาหัส จึงห้ามมิให้ดวงอาทิตย์ทั้ง 10 ขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกัน ทว่าทั้งหมดไม่ยินยอม โฮ่วอี้จึงเล็งศรยิงดวงอาทิตย์ 9 ดวงตกลงไป เหลือเพียงดวงเดียวที่ส่องแสงมายังพื้นพิภพ ทำให้โลกกลับเข้าสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
เง็กเซียนฮ่องเต้ทราบความดังนั้นก็พิโรธนัก ทรงตรัสแก่โฮ่วอี้ว่า “เจ้ารักใคร่โลกมนุษย์มากเสียจนกล้าทำลายแสงสว่างแห่งสวรรค์เชียวหรือ ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะถูกเนรเทศจากสวรรค์และไปอยู่กับมนุษย์ผู้ไร้ความเป็นอมตะเหล่านั้นเสียเถิดโฮ่วอี้จึงจุติลงมาเกิดเป็นจักรพรรดิสวนจงแห่งราชวงศ์ถัง ได้ปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุขสืบมา ทว่าเทพธิดาฉังเอ๋อซึ่งมาเกิดเป็นมเหสีของพระองค์นั้นกลับเฝ้าคิดถึงแต่ชีวิตอมตะบนสวรรค์  มิได้สนใจพระสวามี นางมักรอจนพระจักรพรรดิบรรทม จึงแอบมาอธิษฐานรำพึงรำพันต่อพระจันทร์เต็มดวงว่า สามีของเราถูกเนรเทศจากสวรรค์ แต่เหตุใดเราจึงต้องมาทนทุกข์ยากร่วมกับเขา เราปรารถนาแต่ความอ่อนเยาว์ตลอดกาลและชีวิตอันแสนสุขบนสรวงสวรรค์ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยสวนอันสวยงามเมื่อโฮ่วอี้จับได้ว่าพระมเหสีมิได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์เช่นนั้นก็พิโรธมาก ด้วยความโกรธแค้น โฮ่วอี้กลายเป็นจักรพรรดิที่โหดร้ายขึ้นทุกวัน จนบ้านเมืองเกิดการกบฏวุ่นวาย       
คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง โฮ่วอี้และมเหสีนั่งชมความงามของพระจันทร์ในสวน มีพระในลัทธิเต๋ารูปหนึ่งขอเข้าเฝ้าและถวายเหล้าไวน์ที่ทำจากดอกหอมหมื่นลี้ พระรูปนั้นแกะห่อกระดาษที่นำมาด้วย และโรยผงที่มีประกายระยิบระยับลงไปในถ้วยไวน์ พลางทูลพระจักรพรรดิว่า “ยานี้จะทำให้พระองค์กลับเป็นอมตะอีกครั้งโฮ่วอี้ได้ฟังดังนั้น ก็คิดในใจว่า เวลานี้ประชาชนเป็นกบฏต่อเรา ชะรอยพระรูปนี้จะคิดวางยาพิษเรา อย่ากระนั้นเลย เราจะให้ภรรยาของเราลองดื่มยานี้ก่อนพระองค์จึงตรัสแก่มเหสีว่า ในเมื่อเจ้าปรารถนาความเป็นอมตะ ก็จงดื่มก่อนเถิด”                                                 
ฝ่ายพระมเหสีเมื่อรับถ้วยไวน์จากพระสวามีก็คิดว่า “สามีของเรากลายเป็นทรราชไปเสียแล้ว หากทำให้เขากลายเป็นอมตะ ก็จะเป็นภัยต่อโลกยิ่งนักเมื่อคิดได้ดังนั้นพระนางจึงดื่มยาเข้าไปทั้งหมด พระจักรพรรดิเห็นดังนั้นก็กริ้วมาก ทรงชักดาบขึ้นหมายจะตัดเศียรพระมเหสี ทว่าพลังของยานั้นทำให้พระนางสามารถเหาะหนีไปโดยหมายจะกลับสวรรค์ แต่พลังก็หมดลงทันทีที่เสด็จถึงดวงจันทร์ ที่นั่นพระนางพบทางเข้าพระราชวังอันกว้างใหญ่ และต้นหอมหมื่นลี้ขนาดยักษ์ซึ่งข้างใต้มีกระต่ายหยกกำลังตำสมุนไพรเพื่อปรุงยาอายุวัฒนะ พระนางได้พบทุกสิ่งที่เคยฝันถึง แต่ไม่นานก็พบว่าไม่มีใครอื่นอยู่เลยนอกจากกระต่ายตัวนั้น จึงรู้สึกโศกเศร้าเสียใจในความผิดที่ได้ทรยศต่อสามี จนต้องใช้ชีวิตที่เหลือเพียงลำพัง                                                                                             
ชาวจีนบางคนเชื่อว่า เทพธิดาฉังเอ๋อเป็นพระโพธิสัตว์ที่เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ในเวลาเดียวกับที่ทรงบรรลุธรรม เพราะเป็นเวลาที่พระนางเกิดความเมตตาแก่ชาวโลกอย่างหาที่สุดมิได้ พระนางจึงเลือกที่จะไม่เหาะไปไกลกว่าดวงจันทร์ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆ คอยคุ้มครองชาวโลกที่เดือดร้อน ในช่วงพระจันทร์เต็มดวงในฤดูใบไม้ร่วง พระนางจะเสด็จกลับลงมายังโลกเพื่อโปรดเหล่ามนุษย์       
ตำนานเล่าว่า หลายร้อยปีหลังเทพธิดาฉังเอ๋อเสด็จสู่ดวงจันทร์ คนตัดไม้ผู้หนึ่งนามว่า อู๋กัง ได้ลักลอบเข้าไปในสวนภายในเขตวิหารของพระนางซีหวังหมู่ พระแม่เจ้าแห่งตะวันตก เพื่อจะตัดไม้จากต้นหอมหมื่นลี้เก่าแก่ของพระนางไปทำฟืนขาย อู๋กังแบกไม้ไว้บนหลังและเล็ดลอดหนีไปได้ แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เขาทิ้งตัวลงนอนพัก และเมื่อลืมตาขึ้น ก็ได้เห็นสวนอันสวยงามแห่งหนึ่ง จึงลุกขึ้นเดินไปจนพบกระต่ายหยกใต้ต้นหอมหมื่นลี้ขนาดยักษ์ เขาจึงถามกระต่ายว่า “นี่คือที่ใดกันหรือกระต่ายตอบว่า นี่เป็นสวนบนดวงจันทร์ของฉังเอ๋ออู๋กังจึงถามต่อว่า แล้วท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”                                                
กระต่ายจึงตอบว่า “นานมาแล้ว ปราชญ์ 3 ท่านได้ปลอมแปลงกายเป็นขอทานเพื่อทดสอบคุณธรรมของสุนัขจิ้งจอก ลิง และตัวข้า พวกเขาขออาหารจากเจ้าหมาจิ้งจอก และจิ้งจอกก็ให้องุ่นไป พวกเขาขออาหารจากลิง และลิงก็ให้ผลแตงแก่พวกเขาคนละชิ้น แต่เมื่อพวกเขามาขออาหารจากข้า ข้าก็มีเพียงหญ้าซึ่งคงไม่พอประทังชีวิตพวกเขา ด้วยความสงสาร ข้าจึงขอให้พวกเขากินข้าเป็นอาหาร คุณความดีในครั้งนั้นทำให้ข้ามีวิญญาณอมตะและได้มาอาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้ซึ่งข้าจะได้ฝึกวิชาสมุนไพรอย่างมีความสุข แต่สำหรับมนุษย์แล้ว ดวงจันทร์นั้นทั้งกว้างใหญ่และหนาวเย็น”          
แล้วเหตุใดข้าจึงตื่นขึ้นมาในสวนของท่านอู๋กังถาม    
เจ้าตัดต้นหอมหมื่นลี้ศักดิ์สิทธิซึ่งเป็นหลานของต้นหอมหมื่นลี้ที่ให้ร่มเงาแก่สวนบนดวงจันทร์แห่งนี้ เง็กเซียนฮ่องเต้ประมุขแห่งสรวงสวรรค์จึงเนรเทศเจ้ามาที่นี่เป็นการลงโทษ แต่เจ้าสามารถกลับไปยังโลกได้ทันทีที่เจ้าโค่นต้นหอมหมื่นลี้บนดวงจันทร์ได้สำเร็จกระต่ายตอบ                                    
คนตัดไม้ซึ่งคิดถึงครอบครัวของเขาบนโลกมนุษย์ จึงรีบลงมือโค่นต้นไม้ต้นนั้นทันที แต่ทุกครั้งที่เขาใช้ขวานฟันลงไป กิ่งไม้ก็กลับงอกออกมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เขายังคงตัดแล้วตัดอีกอย่างไม่จบสิ้นจนถึงทุกวันนี้


1 ความคิดเห็น: